Avengers #4
Kang War Part 4
สงครามแคงก์ ตอนที่ 4
เรื่อง: Mark Waid
ภาพ: Mike Del Mundo
วางจำหน่าย: 1 กุมภาพันธ์ 2017
ความเดิมตอนที่แล้ว:
ที่ป้อมปราการ ณ สุดเขตเส้นเวลาที่โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ดวงสุดท้ายที่กำลังแตกดับ ด้านนอกกำแพง เอนโทรปี้ได้เหนี่ยวรั้งการเคลื่อนที่ของทุกอะตอมและโมเลกุลจนเข้าใกล้คำว่าหยุดนิ่ง มีเพียงแค่เสียงของอิเล็กตรอนที่พยายามจะโคจรให้ครบรอบสุดท้ายของมัน ที่นี่มีเพียงแค่ความเงียบงันเท่านั้นที่คงอยู๋ และปลอดจากเสียงอันอื้ออึงใดๆ ของประวัติศาสตร์ และที่แห่งนี้ก็คือที่อยู่ของ Kang The Conqueror
ในกระแสกาลเวลาที่ไหลเวียน Kang ได้ปกครองจักรวรรดิมามากมาย มากเสียจนชายผู้คงอยู่เป็นเวลานับสหัสวรรษอย่างเขาก็ไม่สามารถกวาดมองได้หมด แต่เหล่าลูกน้องของเขาก็สามารถรับใช้เขาได้ดีไม่มีที่ติ นักขุดเพชรจากศตวรรษที่ 17 จุนเจือทรัพย์ให้แก่นักทำอาวุธของศตวรรษที่ 47 เพื่อจัดการกลุ่มต่อต้านในศตวรรษที่ 38 วนเวียนเช่นนี้เรื่อยไป นับเป็นระบบที่ใช้เวลานับศตวรรษกว่าจะตกผลึกได้สวยงามเช่นนี้
ประวัติศาสตร์มักจะจารึกไว้ว่าช่วงเวลาไหนเป็นยุคของผู้ใด และแน่นอนว่าศตวรรษที่ 31 ย่อมเหมาะสมที่จะเป็นยุคของ Kang ผู้ถือกำเนิดในปี 3000 ในวัยหนุ่ม Kang สนใจที่จะศึกษาในกาลศาสตร์และสร้างเครื่องข้ามเวลาขึ้น ซึ่งปกติแล้ว สมองของมนุษย์สามารถซึมซับข้อมูลต่างๆ ตลอดเวลาหนึ่งทษวรรษด้วยเวลาชั่วโมงเดียว แต่สำหรับบันทึกที่ Victor Von Doom เขียนไว้เมื่อหลายพันปีก่อนนั้นต้องใช้เวลาสองเดือนถึงจะเข้าใจ
Kang เชื่อว่าตำนานกับความอมตะนั้นเป็นของคู่กัน เขาจึงย้อนกลับไปในยุคอียิปต์โบราณ อารยธรรมแรกที่ว่ากันว่าสามารถเข้าถึงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้สำเร็จ แต่ Kang คิดว่าเรื่องราวของเทพโอซิริสนั้นช่างงมงายสิ้นดี เขาจึงตั้งตนเป็นฟาโรห์ซะเองในนามของ Rama-Tut มีกองกำลังเป็นทหารนับแสน มีพีระมิดที่สร้างด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อใช้เก็บอุปกรณ์ที่เขาออกแบบเองได้นานนับพันปี
หลังจากเสร็จธุระในยุคอียิปต์โบราณ Kang เดินทางกลับไปยังยุคสมัยของเขา แต่ทว่าเขากลับถูกผลกรรมจากการลบหลู่เส้นเวลาส่งให้ไปโผล่ในปี 4086 ของศตวรรษที่ 41 ซึ่งทำให้เขาเป็นเหมือนกับมนุษย์ถ้ำที่หลงไปอยู่ในโลกอนาคต ส่งผลให้ Kang ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการสร้างไทม์สูทใหม่ที่เข้ากับยุคนั้นมากกว่าชุดฟาโรห์ และสุดท้าย Kang ก็สามารถพิชิตช่วงเวลานั้นได้สำเร็จ
ในวันหนึ่ง Kang ได้พบบันทึกที่บอกว่ามีอัญมณีและโลหะหายากจากทั่วทั้งกาแล็กซี่ถูกฝังไว้ในสุสานที่ถูกลืมเลือนนานพอกันกับศพที่ถูกฝังอยู่ ด้วยความใคร่รู้ Kang จึงขุดหลุมศพนั้นขึ้นมาว่าใครกันคือผู้ที่ถูกกาลเวลาทอดทิ้ง ปรากฏว่านั่นก็คือตัวเขาเอง ศพของเขาในชุดฟาโรห์ที่กอดหน้ากากอันหนึ่งไว้ Kang จึงตัดสินใจว่าเขาจะต้องเขียนเวลาขึ้นมาใหม่ให้จงได้
และหน้ากากที่ไร้ซึ่งการบ่งชี้ถึงกาลเวลาใดๆ ก็คือสิ่งที่เหมาะสมกับการเป็นสัญลักษณ์ของเขา และนับจากวันนั้น ความทะเยอทะยานได้กลายเป็นความเชื่อมั่น และความเชื่อมั่นก็แปรเปลี่ยนสู่ความบ้าคลั่ง Kang ไม่กลัวในสิ่งใด ไม่ก้มหัวให้ผู้ใด เขาจะสร้างมรดกตกทอดที่จะไม่มีวันเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน ชื่อของเขาจะต้องคงอยู่ตลอดทั้งสองฟากของกาลอวกาศ และผู้ใดที่คิดต่อต้านจะต้องถูกกำจัด
ปัจจุบัน เสียงสายฟ้าดังสนั่นอยู่ข้างนอกป้อมปราการของเขา Kang หยิบปืนของเขาเพื่ออกไปต่อกรกับผู้บุกรุก แต่ทว่า อาวุธ ลูกน้อง และไทม์สูทของเขาก็สลายกลายเป็นเถ้าธุลี พร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของ Avengers จากช่วงเวลาต่างๆ และนี่ก็คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ Kang ได้รู้สึงถึงสิ่งที่เรียกว่า...ความกลัว
แผนการของ Captain America ในการกำจัด Kang คืออะไร และสิ่งใดที่นำพาเขาจนมาถึงที่นี่ได้
