Moon Knight #1
The Mission
ตอนที่ 1: ภารกิจลิขิตจันทร์
เรื่อง: Jed MacKay
ภาพ: Alessandro Cappuccio
วางจำหน่าย: 21 กรกฎาคม 2021
ข้อควรรู้ก่อนอ่าน:
- มาร์ค สเปคเตอร์คืออดีตทหารในกองทัพเรือสหรัฐที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้างและเสียชีวิตลงระหว่างทำภารกิจในตอนเหนือของซูดานที่ติดกับเขตแดนของอียิปต์ ก่อนที่เขาจะฟื้นคืนชีพกลับมาด้วยอิทธิฤทธิ์ของคอนชู เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์และการแก้แค้นของอียิปต์ โดยมีข้อแม้ว่ามาร์คต้องมารับใช้เขาในฐานะของมูนไนท์ อัศวินจันทราและกำปั้นแห่งคอนชูเป็นการตอบแทน
- มาร์คเป็นโรคหลายบุคลิกหรือ DID(Dissociative Identity Disorder) ทำให้เขามีหลายตัวตนอยู่ในร่างเดียว ซึ่งมีบุคลิกหลักที่เด่นๆ ดังนี้
- สตีเว่น แกรนท์ นักธุรกิจหนุ่มและมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย เปรียบเสมือนบ่อเงินบ่อทองของมาร์ค แต่ก็ชอบมีปัญหาด้านการเงินอยู่บ่อยๆ
- เจค ล็อคลี่ย์ โชเฟอร์แท็กซี่นิสัยถ่อย ผู้มีความสามารถในการหาข่าวและเส้นสายจากผู้คนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนไร้บ้าน ขอทาน หรือเจ้าของร้านอาหาร
- มูนไนท์ กำปั้นแห่งคอนชูและผู้พิทักษ์ผู้คนในยามวิกาล
- มิสเตอร์ไนท์ ยอดนักสืบผู้สุขุมและเคร่งขรึม เป็นตัวตนที่ใช้ในการเข้าหาพวกตำรวจที่ไม่ชอบศาลเตี้ยสายโหดอย่างมูนไนท์
- ก่อนหน้านี้ใน Age of Khonshu มาร์คได้ช่วยเหลือคอนชูในการยึดครองโลกและต่อสู้กับอเวนเจอร์ ซึ่งเรื่องราวจบลงด้วยการที่คอนชูถูกจับไปขังที่แอสการ์ด สามารถอ่านสรุปได้ที่นี่
หลังจากจบ Age of Khonshu มาร์คได้หวนกลับมาเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์ผู้คนในยามค่ำคืนตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของคอนชูอีกครั้ง และคราวนี้ เขาได้เปิดมิดไนท์มิชชั่นขึ้นในนามมิสเตอร์ไนท์เพื่อรับฟังคำร้องต่างๆ จากผู้คน แล้วเขาจะไปจัดการกับเรื่องพวกนั้นให้ในฐานะมูนไนท์
ในยามค่ำคืนที่ฝนตกโปรยปราย แวมไพร์สองตนกำลังขับรถพาคนที่ถูกลักพาตัวมาและเปลี่ยนให้กลายเป็นแวมไพร์ไปที่ไหนสักแห่ง
รถขนแวมไพร์ถูกมูนไนท์เข้าโจมตีจนพลิกคว่ำไปชนเสาไฟฟ้า แวมไพร์ทั้งสองตนหนีออกมาจากรถได้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไม่มีทางหนีพ้นไปจากเงื้อมมือของมูนไนท์อยู่ดี
มูนไนท์: ฉันเตือนแกแล้ว ฉันเตือนพวกแกทุกคนไปแล้ว
มูนไนท์: ฉันทำสัญลักษณ์ของฉันไว้บนกำแพงก็เพื่อสองเหตุผล ข้อแรก ก็เพื่อที่ผู้คนจะได้รู้ว่าพวกเขาปลอดภัย ผู้คนของฉัน เหล่าผู้คนที่สัญจรในยามวิกาล
มูนไนท์: ส่วนข้อสอง เพื่อเป็นคำเตือนว่านี่คืออาณาเขตของฉัน ผู้คนของฉัน ภารกิจของฉัน ฉันคือมูนไนท์ นั่นคือคำเตือนของฉัน และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อแกไม่สนใจมัน
หลังจากที่แวมไพร์ทั้งสองตนถูกจับตอกลิ่มหัวใจไปแล้ว มูนไนท์ก็เตรียมที่จะไปจัดการกับกลุ่มคนที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ต่อ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องปล่อยกลุ่มคนเหล่านั้นไปเมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นแค่เหยื่อของแวมไพร์ทั้งสองตนที่เขาเพิ่งกำจัดไปเมื่อครู่
ปัจจุบัน มิสเตอร์ไนท์มานั่งพูดคุยกับด็อกเตอร์แอนเดรีย สเตอร์แมน นักจิตวิทยาที่อเวนเจอร์ส่งมาเพื่อคอยดูแลและตรวจเช็คสุขภาพจิตของมูนไนท์ที่มีอาการทางจิตและเป็นโรคหลายบุคลิก โดยทั้งคู่คุยกันถึงเรื่องที่มูนไนท์ได้ไปช่วยผู้คนที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์มา ก่อนที่แอนเดรียจะเริ่มเข้าเรื่อง
แอนเดรีย: ใช่แล้ว เรื่องหน้าที่ทางศาสนาของคุณ เรามาคุยเรื่องนั้นกันดีกว่า
แอนเดรีย: คุณเริ่มตั้งนิกายงั้นเหรอ?
มิสเตอร์ไนท์: ภารกิจน่ะ ผมคือนักบวชชั้นสูงแห่งคอนชูนะ
แอนเดรีย: แต่คุณเป็นชาวยิวนี่? มันไม่ดูย้อนแย้งไปหน่อยเหรอ?
มิสเตอร์ไนท์: พ่อผมเป็นรับไบ(นักบวชยิว) ส่วนผมเป็นอาชญากรสงคราม ความย้อนแย้งไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับผมสักเท่าไหร่หรอก
แอนเดรียเริ่มพูดเรื่องประวัติและการเริ่มต้นเป็นมูนไนท์ของมาร์ค
แอนเดรีย: มาร์ค สเปคเตอร์ กองทัพเรือสหรัฐ ซีไอเอ แล้วก็กองกำลังทหารรับจ้าง รับงานในแอฟริกาและอเมริกาใต้เป็นหลัก
มิสเตอร์ไนท์: "กองกำลังทหารรับจ้าง" ไม่ต้องมาลบล้างความจริงในประวัติของผมหรอก ผมมันก็เป็นแค่คนเลวที่ทำเรื่องเลวๆ กับคนในประเทศอื่นเพื่อเงินเท่านั้นแหละ
แอนเดรีย: แต่ในตอนที่คุณไปที่เซลิมาที่ทางตอนเหนือของซูดานกับราอูล บุชแมน คุณก็เกิดสำนึกผิดขึ้นมา ทำให้คุณเลือกจุดยืนและลุกขึ้นต่อต้านเพื่อนๆ ทหารรับจ้างของคุณ
แอนเดรีย: แล้วคุณก็ตาย
มิสเตอร์ไนท์: คุณพูดถูก ผมสำนึกผิด แต่หลังจากการต่อสู้ในสงครามโสโครกพวกนี้มาหลายปี วิญญาณผมมันตายด้านเหมือนดินแห้งๆ ไปแล้วล่ะ ถ้าจะทำให้อะไรแบบนั้นกลับมาเติบโตได้อีกล่ะก็ คงต้องรดน้ำให้มันด้วยเลือดแล้วล่ะ เลือดของผมนี่แหละ
แอนเดรีย: แล้วคุณก็บอกว่าคอนชู เทพเจ้าอียิปต์นำพาคุณกลับมาจากความตาย
มิสเตอร์ไนท์: ถูกต้อง แล้วผมก็ถวายชีวิตของตัวเองให้เป็นการตอบแทน เพื่อกลายเป็นกำปั้นแห่งคอนชู ผู้พเนจร ผู้โอบกอด ผู้นำทาง และผู้พิทักษ์ผู้คนที่สัญจรในยามวิกาล
แอนเดรีย: ถึงตรงนี้ นี่คือจุดที่ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตมักจะไม่เชื่อ แต่ฉันตกลงที่จะเป็นจิตแพทย์ประจำตัวคุณตามคำขอของอเวนเจอร์แล้ว ฉะนั้น ฉันเข้าใจว่าสถานการณ์ของคุณนั้นถือเป็นกรณีพิเศษ
แอนเดรีย: คุณเคยตายอีกอย่างน้องสองครั้งมั้ย?
มิสเตอร์ไนท์: ครั้งนึงที่ก้นแม่น้ำอีสต์ ส่วนอีกครั้งก็ตอนที่ชาโดว์คีพ ฐานของผมเกิดระเบิด
แอนเดรีย: งั้นฉันขอถามคุณอีกสักข้อได้มั้ย?
มิสเตอร์ไนท์: ว่ามาเลย
แอนเดรีย: คุณสามารถตายได้มั้ย?
มิสเตอร์ไนท์: ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
จากนั้น ที่มิดไนท์มิชชั่น มิสเตอร์ไนท์ได้ให้รี้ส หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ที่มูนไนท์ได้ช่วยไว้ในตอนแรกมาทำงานในแผนกต้อนรับ ขณะเดียวกันก็มีหญิงชราคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์ไนท์ให้ช่วยไปจัดการกับสิ่งที่ชอบบุกมาจะจับตัวเพื่อนบ้านในตึกของเธอในทุกๆ คืนให้ที
มูนไนท์มาที่ตึกและพบว่าเจ้าสิ่งนั้นก็คือเวอร์มิน วายร้ายของสไปเดอร์แมนผู้มีพลังในการควบคุมหนูและโคลนนิ่งร่างของตัวเองได้ ซึ่งมูนไนท์นั้นไม่ใช่ฮีโร่สายใจอ่อนอย่างสไปเดอร์แมนที่จะยอมปล่อยไปง่ายๆ แล้วให้กลับมาก่อเหตุอีกเรื่อยๆ แต่เขาคือฮีโร่สายโหดที่พร้อมสังหารศัตรูได้โดยไม่ลังเล
ต่อมา แอนเดรียมานั่งคุยกับมิสเตอร์ไนท์ถึงที่มิดไนท์มิชชั่น
แอนเดรีย: เรามาคุยเรื่องคอนชูกันดีกว่า
มิสเตอร์ไนท์: อ่า คอนชู
แอนเดรีย: เทพเจ้าของคุณ ผู้ที่นำคุณกลับมาจากความตาย และเจ้าของหน้าที่ที่คุณทำในทุกค่ำคืน
มิสเตอร์ไนท์: ให้ผมตัดเข้าเรื่องเลยดีกว่า
มิสเตอร์ไนท์: ผมรู้ว่าคอนชูไม่คู่ควรต่อการรับใช้ของผมหรือใครทั้งนั้น ผมรู้ว่าเขาพยายามที่จะยึดครองโลก ผมรู้ว่าเขาสมควรที่จะถูกจองจำไว้ในที่ไหนก็ตามที่พวกเอซีร์(ชาวแอสการ์ด) นำเขาไปไว้ที่แอสการ์ด แต่ไม่ว่าจะคู่ควรหรือไม่ ผมก็เป็นกำปั้นของเขา
มิสเตอร์ไนท์: ผมคือนักบวชชั้นสูงของเทพเจ้าที่ผมตีตัวห่างออกมา ผมยึดหน้าที่ของเขามาเป็นของตัวเอง คอนชูนำพาผมกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หน้าที่ของเขาคือหนี้ของผม และตอนนี้ หน้าที่ของเขาก็คือหน้าที่ของผมเช่นกัน
จากนั้น มูนไนท์ได้รับแจ้งว่ามีวายร้ายบุกไปที่คลีนิกแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงก็พบว่าวายร้ายคนนั้นก็คือเอจบอล วายร้ายระดับล่างที่ไม่มีพลังวิเศษ อดีตศัตรูของสลีปวอล์คเกอร์และชีฮัลค์ และเขาก็เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับชายคนหนึ่งไป
มูนไนท์: ในที่สุดเอจบอลก็เลือกยุ่งผิดคนจนได้สินะ
เอจบอล: มูนไนท์?! ฟังนะพวก อย่าเลาะหน้าฉันเลยนะ ฉันยอมแพ้แล้ว
???: อ่า มูนไนท์ เจ้านี่มันมาโจมตีคลีนิคของผมเพื่อหาอ็อกซีคอนติน(ยาระงับอาการปวด)น่ะ
มูนไนท์: ผมชอบวิธีของคุณนะ คุณ...
บาเดอร์: ด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์บาเดอร์ ผมเพิ่งมาเปิดคลีนิกฟรีอยู่แถวนี้น่ะ ผมกำลังสงสัยอยู่พอดีเลยว่าเมื่อไหร่จะได้เจอคุณซะที
มูนไนท์ส่งกุญแจมือให้บาเดอร์เป็นคนจับเอจบอลด้วยตัวเอง ก่อนที่บาเดอร์จะบอกกับมูนไนท์ว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของลักธิคอนชูเช่นกัน ซึ่งเขาผิดหวังมากที่มูนไนท์ปล่อยให้เทพต่างถิ่นมาเอาตัวคอนชูไปจองจำ อีกทั้งยังปล่อยให้พวกแวมไพร์ออกมาเดินเพ่นพ่านด้วย นอกจากนั้น บาเดอร์ยังบอกว่าในลักธิยังมีคนคนหนึ่งที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขา และคนๆ นั้นไม่ใช่มูนไนท์
มิสเตอร์ไนท์มานั่งคุยกับแอนเดรียในสวนสาธารณะ ซึ่งแอนเดรียได้เล่าเรื่องราวของคาเอดมอน ชายชาวอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 7 ผู้ได้รับฝันเห็นทูตสวรรค์และกลายเป็นกวีโด่งดังที่มีส่วนคล้ายกับมูนไนท์ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสมองหลังจากพบกับบางสิ่งบางอย่าง รวมถึงคนไข้คนอื่นๆ ที่เธอเคยรับมืออย่างแจ๊ค มอนโรและรัทเธอร์ฟอร์ด วินเนอร์
แจ๊ค มอนโร คือคนที่ทำหน้าที่เป็นบัคกี้ในช่วงปี 1950 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บัคกี้ตัวจริงได้หายสาบสูญไป ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะได้กลายเป็นทั้งฮีโร่สมญานามนอแมดและวายร้ายสมญานามสคอร์จ และเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของวินเทอร์โซลเจอร์ในภายหลัง
รัทเธอร์ฟอร์ด วินเนอร์คือคนที่ถูกไฮดร้าล้างสมองให้กลายเป็นอาวุธมนุษย์ เคยต่อสู้กับคอลลิน วิงและมิสตี้ไนท์ ปัจจุบันอยู่ในสถาบันจิตเวชราเวนครอฟต์
จากนั้น มิสเตอร์ไนท์ก็มานั่งคุยกับรี้สที่ไปซื้อกาแฟมาให้ที่หน้ามิดไนท์มิชชั่น
มิสเตอร์ไนท์: ขอบใจนะ รี้ส สงสัยผมคงได้ตาค้างทั้งวันแน่เลย
มิสเตอร์ไนท์: แล้วรู้มั้ยว่าทำไมผมถึงชอบคุณ รี้ส?
รี้ส: คงเพราะฉันเป็นคนเดียวที่คุณรู้จักที่สภาพร่างกายบังคับให้ต้องตื่นในเวลาเดียวกับคุณล่ะมั้ง
มิสเตอร์ไนท์: มันเป็นเพราะคุณไม่พยายามที่จะรักษาผมต่างหากล่ะ
มิสเตอร์ไนท์: มันไม่ง่ายเลยในตอนที่คนอื่นต่างคิดว่าเรามันบ้า และมันก็ยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขาคิดถูก แต่ผมมีงานต้องทำ มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกลับมาจากความตายครั้งแล้วครั้งเล่า ผมคือนักบวชแห่งคอนชู ผมปกป้องผู้ที่สัญจรในยามราตรี มันเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของผม
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีใครบางคนที่กำลังแอบฟังทั้งคู่พูดคุยกันจากตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
???: "หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์" ฟังไอ้หมอนี่มันพูดเข้าสิ
???: แกทำฉันโคตรเลี่ยนเลยว่ะ มูนไนท์ หรือมิสเตอร์ไนท์ หรือเจค ล็อคลี่ย์ หรือสตีเว่น แกรนท์ หรือมาร์ค สเปคเตอร์ แกคงจะไม่รู้หรอก แต่ฉันได้เตรียมโปรเจคท์ใหญ่เบิ้มๆ ไว้ให้แกด้วยล่ะ
???: ฉันจะทำลายความศรัทธาของแกเอง มูนไนท์ ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่าไม่มีอะไรที่คู่ควรแกการเชื่อมั่นทั้งนั้นแหละ และเมื่อไหร่ที่คำลวงอันแสนล้ำค่าที่แกใช้พร่ำบอกตัวเองมันถูกเผาจนเป็นจุลไปหมดแล้ว เราก็จะได้เห็นกันว่าแท้จริงแล้ว แกมันเป็นยังไงกันแน่
ทางด้านบาเดอร์ หลังจากที่เขาได้เห็นว่ามูนไนท์นั้นไปสนิทสนมกับแวมไพร์อย่างรี้ส ทำตัวออกนอกลู่นอกทางจากการเป็นกำปั้นข้างขวาแห่งคอนชู มันก็ถึงเวลาแล้วที่กำปั้นข้างซ้ายอย่างเขา ฮันเตอร์มูน จะได้ออกโรงเพื่อทำให้มูนไนท์กลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง
ไม่ว่าใครก็ต่างอยากเข้ามาลองดีกับมูนไนท์กันทั้งนั้น ถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงให้เห็นแล้ว
ว่ากำปั้นแห่งคอนชูผู้นี้อันตรายแค่ไหน
