Road To Damnation
มนตราสิ้นสูญ จักรวรรดิซ่อนเร้น และศึกชิงบัลลังก์จอมเวท
นี่คือการสรุปเรื่องราวของด็อกเตอร์สเตรนจ์ตั้งแต่หลัง Secret Wars จนไปถึงหลัง Secret Empire ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาของ Damnation ส่วนรูปปก...ผมก็แค่เลือกอันที่ชอบมาเฉยๆ น่ะ ไม่มีอะไรหรอก
ปัจจุบัน สเตรนจ์ได้ช่วยเอาพวก Mind Maggot หรือตัวอ่อนแมลงจิตใจออกจากหัวของบรรณารักษ์สาว เซลม่า สแตนตัน พร้อมกับเสนองานให้เธอมาช่วยจัดหนังสือที่แซงทั่ม
ในขณะเดียวกัน เขากับหว่องก็พบว่ามีภัยพิบัติร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับพลังมนตรากำลังใกล้เข้ามา เมื่อเหล่าจอมเวทจากมิติต่างๆ ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และพลังเวทมนตร์ที่ไหลเวียนอยู่ก็กำลังค่อยๆ สูญสลายไปอย่างช้าๆ
ซึ่งนั่นก็คืออิมเพอร์เรเตอร์ สิ่งมีชีวิตจากมิติที่บูชาชูม่ากอราธเป็นดั่งเทพเจ้า พ่อแม่ของเขาถูกสังหารเนื่องจากเป็นพวกนอกรีต ฝักใฝ่ในวิทยาศาสตร์แทนที่จะเป็นเวทมนตร์ และเมื่อเติบโตขึ้น อิมเพอร์เรเตอร์ก็ได้กลายเป็นผู้นำของกลุ่มเอมพิริคัล บุกจัดการทำลายล้างพลังเวทให้สิ้นซาก
ถึงสุดท้าย สเตรนจ์จะสามารถปราบอิมเพอร์เรเตอร์ได้ แต่มนตราบนโลกก็ได้เหือดแห้งไปจนเกือบหมดสิ้นแล้ว และไม่มีใครทราบว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนในการทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนแต่ก่อน
และในสภาพที่ย่ำแย่และอ่อนแอที่สุดของสเตรนจ์ ศัตรูคู่แค้นมากหน้าหลายตาที่รอโอกาสในการจัดการเขามาตลอดก็ได้เข้ามารุมโดยไม่มีเวลาให้พักหายใจ
สุดท้ายจนแล้วจนรอด สเตรนจ์ก็ยังคงรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องแลกกับการที่หว่องออกจากแซงทั่มไปและได้เซลม่ามาเป็นผู้ช่วยคนใหม่แทน
ต่อมา เมื่อไฮดร้าเรืองอำนาจภายใต้การนำของกัปตันไฮดร้าในอีเว้นท์ Secret Empire สเตรนจ์และเหล่าฮีโร่และวายร้ายในนิวยอร์คต้องเอาตัวรอดภายในเมืองที่ถูกครอบไว้โดยโดมดาร์คฟอร์ซ ต่อสู้กับเหล่าปีศาจจากต่างมิติและบารอนมอร์โดที่เป็นตัวต้นเหตุ

หลังจากที่อีเว้นท์ใหญ่จบสิ้นลงแล้ว แต่เรื่องวุ่นๆ ในชีวิตของสเตรนจ์ยังไม่จบสิ้น เมื่อเขาแพ้การประลองจอมเวทให้แก่โลกิ ทำให้เขาสูญเสียตำแหน่งจอมเวทสูงสุดและทุกสิ่งทุกอย่างไป ส่งผลให้สเตรนจ์ต้องไปเปิดคลีนิกรักษาสัตว์และได้หมาพูดได้ชื่อแบทส์มาเป็นเพื่อนใหม่

ส่วนทางด้านโลกิ เขาพยายามอย่างหนักในการเปิดประตูห้องลับที่สเตรนจ์ล่ามโซ่ไว้ให้ได้ เพราะเขาอยากจะรู้ว่าในห้องนั้นมันมีของดีอะไรที่ทำให้สเตรนจ์ถึงกับต้องป้องกันไว้อย่างแน่นหนาแบบนี้

หลังจากนั้น สเตรนจ์มาที่แซงทั่มเพื่อขอคุยกับเซลม่า แต่เธองอนที่สเตรนจ์หนีไปโดยทิ้งจดหมายไว้แค่ฉบับเดียว ไม่ยอมบอกกล่าว โลกิพูดให้ไปดีๆ ก็ไม่ยอม เลยต้องมีการใช้กำลังกันนิดหน่อย แบทส์พยายามจะปกป้องสเตรนจ์จากโลกิ เลยโดนโลกิใช้พลังใส่นิดหน่อย แต่เนื่องจากแบทส์มีปัญหาด้านหัวใจอยู่แล้วจึงทำให้ขาดใจตายตรงนั้น

สเตรนจ์แค้นที่แบตส์ถูกฆ่า เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากเซนทรี่เพื่อบุกแอสการ์ดไปเอากิ่งของต้นอิกดราซิลโดยเอาศพของแบทส์ไปแลก หลังจากนั้นสเตรนจ์ก็มาสู้กับโลกิโดยใช้กิ่งอิกดราซิลเพิ่มพลังจนถึงขีดสุด

ปล. Shave And A Haircut คือโน๊ต 7 จังหวะที่ใช้สำหรับเรียกขานและโต้ตอบ ซึ่งในกรณีนี้ สเตรนจ์ใช้มันเป็นเหมือนรหัสในการเปิดประตูเรียกสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา

เมื่อประตูเปิดออก สิ่งที่อยู่ในนั้นก็ออกมา ซึ่งมันก็คือวอยด์ ตัวตนด้านมืดของเซนทรี่ที่สเตรนจ์ขังมันเอาไว้ไม่ให้มาคุมร่างเซนทรี่ได้ ซึ่งโลกิรู้จักมันดีสุดๆ เพราะว่าเจ้าตัวนี้คือสิ่งที่เคยฆ่าเขาในอีเว้นท์ Siege นั่นเอง

โลกิใช้พลังทำให้เวทมนตร์คืนกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่เขากับสเตรนจ์จะช่วยกันสู้กับวอยด์ แต่ก็ไม่สามารถจัดการมันได้ จนกระทั่งเซนทรี่โผล่มาช่วยจัดการให้แล้วก็หนีไปเพราะงอนที่สเตรนจ์ไม่รักษาสัญญา ปล่อยวอยด์ออกมาเพ่นพ่าน ส่วนโลกิก็เปิดเผยว่าการประลองทั้งหมดนั่นคือกลลวงของเขาตั้งแต่แรก ทั้งหมดคือแผนของเขา(ยกเว้นเรื่องวอยด์) ซึ่งนั่นก็คือการเตรียมตัวให้สเตรนจ์พร้อมสำหรับศึกในอนาคต ส่วนเซลม่าก็งอนสเตรนจ์แล้วหนีไปอีกคน แต่สเตรนจ์ก็ได้แบทส์กลับมาในรูปของวิญญาณแทน
ปล. ศึกในอนาคตที่โลกิหมายถึงมี
- Damnation (2018)
- Infinity Countdown (2018)
- Final Host (Avengers #1 - #7)
- War Of The Realms (2019)
เมื่อพลังมนตราคืนกลับมาอีกครั้ง ภัยพิบัติครั้งใหม่ก็กำลังก่อตัวขึ้น
เตรียมตัวพบกับ Damnation ได้เร็วๆ นี้