Moon Knight Vol.9 #4

Moon Knight #4

Blackmail

ตอนที่ 4: คำขู่จากนิรนาม


เรื่อง: Jed MacKay

ภาพ: Alessandro Cappuccio

วางจำหน่าย: 27 ตุลาคม 2021


ความเดิมตอนที่แล้ว


มูนไนท์คืออัศวินแห่งจันทรา ผู้ปกป้องผู้คนในยามรัตติกาล ฉะนั้น ยามที่พระอาทิตย์เริ่มลับฟ้าก็ถือเป็นเวลาอันดีที่เขาจะเปิดฝาโลง ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ที่พึงกระทำ

ปล. เนื้อเพลงในภาพคือเพลง The Killing Moon โดย Echo & The Bunnymen


มิสเตอร์ไนท์มาหาแอนเดรีย เธอถามทำไมเขาถึงต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา มิสเตอร์ไนท์ตอบว่าเพราะเวลาที่ใส่หน้ากาก เขาจะไม่ใช่มาร์ค สเปคเตอร์ ไม่มีใครต้องการมาร์ค สเปคเตอร์หรอก ผู้คนต้องการกำปั้นแห่งคอนชู สัญลักษณ์ของผู้วายชนม์ที่กลับมาเพื่อแสวงหาความยุติธรรมต่างหาก


สจ๊วต คลาร์ก วายร้ายสมญานามแรมเพจได้รับการติดต่อจากชายลึกลับผู้ต้องการจัดการมูนไนท์ โดยเขาสั่งให้เเรมเพจจัดการกับเงินนับล้านในบัญชีของสตีเว่น แกรนท์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจ หนึ่งในบุคลิกของมูนไนท์ เพราะถ้าไม่มีเงิน มูนไนท์ก็เป็นได้แค่คนธรรมดาเท่านั้น


ไทกร้า เพื่อนร่วมทีมและกิ๊กเก่ามูนไนท์สมัยร่วมทีมอเวนเจอร์เวสต์โคสต์เดินทางมาหาเขาที่มิดไนท์มิชชั่น ซึ่งเธอพยายามจะถอดหน้ากากของมิสเตอร์ไนท์ แต่เขาไม่ยอม เพราะถ้าหากศัตรูรู้ตัวตนที่แท้จริงของมูนไนท์ขึ้นมา เพื่อนๆ ของเขาอาจจะเป็นอันตรายไปด้วย แต่ก็โดนรีสแซะว่าคนที่เอาแต่นอนตอนกลางวันแล้วไปต่อยตีกับคนอื่นตอนกลางคืออย่างมิสเตอร์ไนท์คงไม่มีเพื่อนที่ไหนหรอก และไทกร้าก็ช่วยเสริมว่านี่แหละ คนที่ทำซีรีส์เกี่ยวกับมูนไนท์สำหรับฉายบนทีวี แถม IMDB ก็ลงชื่อของมาร์ค สเปคเตอร์ให้ซะเด่นเลยว่าเป็น Excutive Producer ซึ่งทั้งสองสาวต่างเข้าขากันดีจนมิสเตอร์ไนท์รู้สึกเซ็ง


ทันใดนั้น มิสเตอร์ไนท์ก็ได้รับสายจากแรมเพจ เขาบอกว่าในตอนนี้ บัญชีของสตีเว่น แกรนต์ได้ถูกเขาคุมไว้แล้ว และมิสเตอร์ไนท์ต้องทำตามสิ่งที่เขาสั่งซะถ้าไม่อยากหมดตัวไปกินแกลบเป็นเพื่อนสไปดี้


มูนไนท์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งตามคำสั่งของแรมเพจ

ปล. ป้ายข้างๆ มูนไนท์นั่นคือป้ายของบียอนด์คอร์ป เป็นการโปรโมทข้ามหัวเรื่อง อยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรนี้สามารถหาอ่านได้ในหัว The Amazing Spider-Man


เมื่อบุกเข้าไปและต่อสู้กับเหล่าลูกสมุนจำนวนมากแล้ว มูนไนท์ก็ได้พบกับหัวหน้าของพวกมัน เป้าหมายที่แรมเพจให้เขาจัดการ บิลลี่ รุสโซ่ จิ๊กซอว์ต้นตำรับที่แรมเพจเคยเอาสมญานามนี้มาใช้อยู่ช่วงนึงนั่นเอง ซึ่งเขาก็ไม่รอช้า วิ่งเข้าใส่เดี่ยวกับจิ๊กซอว์ทันที


หลังจากที่จัดการกับจิ๊กซอว์ มูนไนท์ก็บุกไปหาแรมเพจถึงที่เป็นรายต่อไป แรมเพจตกใจเพราะว่ามูนไนท์ไม่น่าจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่


และมูนไนท์ไม่ได้มาที่นี่คนเดียว เพราะเขาพาไทกร้ามาเป็นเพื่อนด้วยอีกคน ซึ่งที่เขาไปสู้กับจิ๊กซอว์ตามที่สั่งก็เป็นเพราะพวกเขาพยายามถ่วงเวลาเพื่อแกะรอยหาที่อยู่ของแรมเพจจนเจอนั่นเอง


ซึ่งต่อให้แรมเพจจะถอนเงินออกจากบัญชีจนเกลี้ยงตามที่พูดไว้จริง มูนไนท์ก็ไม่สน เพราะว่าเขาคือนักบวช และนักบวชที่ร่ำรวยน่ะ...ไม่มีทางเป็นคนดีได้หรอก!


เมื่อจัดการแรมเพจแล้ว มูนไนท์ก็มานั่งระบายความทุกข์ให้ไทกร้าฟังบนดาดฟ้าตึกในตอนเที่ยงคืน มูนไนท์เล่าย้อนถึงในตอนที่เขาช่วยคอนชูยึดครองโลก ทรยศเหล่าเพื่อนๆ อเวนเจอร์ใน Age of Khonshu หลังจากนั้นเขาก็ถูกมาร์ลีน อัลแรน ผู้เป็นภรรยาทิ้งและพาลูกสาวหนีไปต่างประเทศรวมถึงไม่ให้ตามไปด้วย เพราะเธอคิดว่าเขานั้นอันตรายเกินไป


ส่วนสาเหตุจริงๆ ที่มูนไนท์ไม่ยอมถอดหน้ากากก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะมองใบหน้าของตัวเอง ใบหน้าของคนที่เอาแต่ทำผิดซ้ำๆ ทำเรื่องเลวร้ายกับผู้คนที่รักเขาอีก เมื่อพูดแล้วมูนไนท์ก็ยอมถอดหน้ากากต่อหน้าไทกร้า ให้เธอได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขา


หลังจากนั้น ไทกร้าก็ตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนมูนไนท์จนกว่าจะถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น


ใกล้ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้รู้ว่าศัตรูลี้ลับที่ต้องการกำจัดมูนไนท์คือใคร!