Moon Knight #13
Knight Feeders
ตอนที่ 13: เครื่องกระตุ้นของอัศวิน
เรื่อง: Jed MacKay
ภาพ: Federico Sabbatini
วางจำหน่าย: 13 กรกฎาคม 2022
ชายผู้เรียกตัวเองว่าติวเตอร์ ผู้เป็นผู้นำของเหล่าแวมไพร์ในแถบนี้ได้จ้างทาสก์มาสเตอร์ ยอดนักฆ่ามือพระกาฬผู้สามารถลอกเลียนแบบท่าทางการต่อสู้ของผู้อื่นได้ผ่านการมองเพียงครั้งเดียวมาเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องมูนไนท์
ติวเตอร์: เล่าเรื่องมูนไนท์ให้ผมฟังที
ทาสก์มาสเตอร์: ฉันไม่ค่อยได้ทำพวกเรื่องให้คำปรึกษาบ่อยอย่างที่นายคิดหรอกนะ มันฟังดูแปลกใช่มั้ยล่ะ? เพราะฉันอยู่วงการนี้มาก็นาน รู้อะไรมาก็เยอะ แต่เวลาคนส่วนใหญ่มาจ้างฉันน่ะเหรอ? ทาสก์มาสเตอร์ครับ ฆ่าไอ้หมอนั่นให้หน่อย ทาสก์มาสเตอร์คะ บึ้มตึกนี้ให้หน่อย ทาสก์มาสเตอร์ขา ทำให้ผัวหนูขาเดี้ยงไปตลอดชีวิตให้หน่อย
ทาสก์มาสเตอร์: แต่ยังไงก็ช่างเถอะ มูนไนท์สินะ
ทาสก์มาสเตอร์: ตอบสั้นๆ เลยนะ ไม่
ในยามเช้าตรู่ที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า มูนไนท์จับพวกสมุนแวมไพร์ของติวเตอร์มามัดไว้กับเสาไม้ แม้ว่าตอนนี้เงาของตึกอัลเคแมกซ์จะยังช่วยบังแสงให้อยู่ แต่ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นสูงกว่านี้เมื่อไหร่ แวมไพร์พวกนี้จะต้องถูกเผาจนเหลือเพียงเถ้าถ่านเป็นแน่
กลับมาทางด้านติวเตอร์กับทาสก์มาสเตอร์
ติวเตอร์: ผมคิดว่าผมไม่เข้าใจในเรื่องนั้นนะ
ทาสก์มาสเตอร์: ฟังนะ ติวเตอร์ นั่นคือชื่อที่นายใช้เรียกตัวเองใช่มั้ย?
ทาสก์มาสเตอร์: นายกับไอ้พวกปีระมิดแวมไพร์อะไรนั่น สตรัคเจอร์น่ะ มันเป็นอะไรที่เจ๋งดีนะ แต่ว่ามูนไนท์คืออะไรที่อยู่ในอีกระดับไปเลย
ทาสก์มาสเตอร์: นาวิกโยธินสหรัฐ ซีไอเอ พวกนักฆ่ารับจ้าง มันฆ่าผู้คนในป่าของอเมริกาใต้กับในทะเลทรายของแอฟริกาไม่ต่างจากที่มันทำในนิวยอร์คหรอก อะไรที่นาวิกไม่เคยสอนมัน ซีไอเอก็สอน แล้วหลังจากนั้นมันก็ไปตัวติดอยู่กับไอ้บ้าอย่างราอูล บุชแมนเพื่อเรียนรู้ต่อให้หมด มันไม่ต่างอะไรจากดาบที่ผ่านการลับให้คมมาจากก้อนหินมากมายหลายก้อน นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันหมายความว่ายังไง
ทาสก์มาสเตอร์: แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มันเป็นตัวอันตรายหรอกนะ
ทางด้านมูนไนท์ หลังจากที่แวมไพร์ตัวอื่นๆ ถูกจับส่งออกไปโดนแสงอาทิตย์ เขาก็ได้ถามแวมไพร์ตนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ถึงที่อยู่ของทั้งติวเตอร์และกลุ่มสตรัคเจอร์ แต่ถ้าถามแล้วไม่ได้คำตอบก็จงออกไปนอนอาบแดดซะ
ทางด้านทาสก์มาสเตอร์กับติวเตอร์ก็ยังคงคุยกันต่อ
ติวเตอร์: แต่เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?
ทาสก์มาสเตอร์: แค่คนธรรมดา?
ติวเตอร์: ผู้คนของผมได้ละทิ้งมนุษยชาติไว้เบื้องหลัง เราได้เอาชนะและกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีกว่า เหมือนกับในแบบที่คุณเป็นอยู่ ด้วยมันสมองอันแสนมหัศจรรย์ของคุณ แต่ว่ามูนไนท์ เขาไม่มีพลังวิเศษซะหน่อย
ทาสก์มาสเตอร์: นายอยากรู้ใช่มั้ยว่ามูนไนท์เป็นคนยังไง
ทาสก์มาสเตอร์ควักลูกกระสุนปืนขึ้นมาโชว์ให้ติวเตอร์ดู
ทาสก์มาสเตอร์: นี่แหละมูนไนท์
ในขณะที่กำลังสาธยายถึงสรรพคุณของมูนไนท์ให้ติวเตอร์ฟัง ทางด้านมูนไนท์เองก็ได้ไปช่วยเหลือผู้คนที่ถูกติวเตอร์จับตัวมาเพื่อเตรียมเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์
ทาสก์มาสเตอร์: ถ้านายยิงไอ้นี่ใส่ใครสักคน มันจะทะลุออกไปอีกด้านหนึ่งจากข้างใน สร้างความเจ็บปวดจากเนื้อเยื่อทั้งหลายที่มันได้ทำลายลงไป นั่นแหละคือมูนไนท์
ทาสก์มาสเตอร์: มันจะเข้ามานายด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าเสียง ไม่สนใจว่าตัวเองจะต้องเจออะไรบ้าง และเมื่อพุ่งทะลุไปอีกด้าน มันจะทิ้งรูเบ้อเริ่มไว้ในชีวิตของนาย ใหญ่พอที่จะให้รถไฟไปวิ่งเล่นได้เลยล่ะ
ทาสก์มาสเตอร์: ฉันไม่รู้หรอกนะว่าอะไรที่เปลี่ยนคนๆ หนึ่งให้กลายเป็นเหมือนกระสุนปืนได้ และฉันก็ไม่อยากจะรู้ด้วย
ติวเตอร์: คุณนี่มีพรสวรรค์ในการเล่นละครนะ ทาสก์มาสเตอร์
ทาสก์มาสเตอร์: เดี๋ยว นี่นายไม่เห็นรองเท้าโจรสลัดกับหน้ากากกระโหลกตอนที่ฉันเดินเข้ามารึไง?
ติวเตอร์: แต่ความจริงก็ยังคงอยู่ มูนไนท์เริ่มทำตัวเป็นปัญหา เขาฆ่าคนของผม ถึงแม้ว่าผมจะสามารถเปลี่ยนคนอื่นๆ ได้ตลอดก็เถอะ-นั่นแหละ จุดสำคัญของสตรัคเจอร์ แต่ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น เขากำลังโจมตีไปยังโครงสร้างอันเป็นพื้นฐานของเรา ปลดปล่อยทั้งอาหารและคนที่เราเก็บไว้ แต่ที่แย่กว่านั้น คือเขามีพวกแปรพักตร์อยู่ด้วย แวมไพร์ 4 คนที่เขาแย่งชิงไปจากผม
ติวเตอร์: ซึ่งนั่นก็แย่มากพอแล้ว แต่มันยังไม่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนเท่าไหร่ ไม่จนกระทั่งตอนที่หนึ่งในพวกนั้นได้ท้าทายกับความเป็นคนพิเศษของผม
ขณะเดียวกัน มิสเตอร์ไนท์มานั่งคุยกับแอนเดรียถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับโซลเจอร์ในตอนที่แล้ว
มิสเตอร์ไนท์: ...เธอเสียใจ แต่เธอไม่ได้โกรธ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับผม แต่ที่แย่ที่สุดก็คือเธอบอกว่านั่นไม่ใช่ความผิดของผม
แอนเดรีย: มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ มาร์ค? ในตอนที่คุณไปคุยกับแม่ของโซลเจอร์ อะไรคือสิ่งคุณต้องการงั้นเหรอ การให้อภัยหรือว่าการลงโทษ?
มิสเตอร์ไนท์: ผมไม่รู้ กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา ผมต้องคุยกับเธอ เขาต้องอยู่ที่มิชชั่นก็เพราะผม เขาสวมชุดของผม ให้ตายเถอะ
แอนเดรีย: คุณไม่ได้ลักพาตัวเขาซะหน่อย มาร์ค คุณไม่ได้ไปหลอกหรือบังคับเขามา คุณเองก็มีบาดแผลในชีวิตมามากพอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องไปเอาของคนอื่นมารวมด้วยหรอกนะ
มิสเตอร์ไนท์: อย่างนั้นเหรอ ด็อกเตอร์สเตอร์แมน ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนทำให้คุณต้องโดนไอ้โรคจิตนั่นลักพาตัวไปหรอกเหรอ?
แอนเดรีย: งานของฉันก็คือการ่วยเหลือผู้คนในงานของคุณ นั่นคือธุระของฉัน มาร์ค ฉันไม่เคยถูกลวงตาด้วยอะไรที่อาจจะมีความหมายกับฉันหรอกนะ มันเป็นสิ่งที่ฉันเลือกแล้ว ก็เหมือนกับโซลเจอร์ที่ไม่ถูกลวงตาด้วยอะไรที่ต้องแลกมากับการใส่ชุดของคุณและเดินออกไปนอกมิดไนท์มิชชั่นในคืนนั้น มันเหมือนว่าเขาได้เลือกแล้ว
ที่มิดไนท์มิชชั่น ไทกร้ากับรี้สกำลังคุยกันเรื่องมูนไนท์ที่ไม่เคยหยุดพักเรื่องการล้างบางพวกแวมไพร์และตามหาติวเตอร์เลยหลังจากเรื่องของโซดิแอคและสิ่งที่เกิดขึ้นกับโซลเจอร์
รี้ส: เขาบอกว่าเขากำลังทำเพื่อฉัน สำหรับสิ่งที่พวกนั้นทำกับฉัน เขาบอกว่าเขาปล่อยมันไว้นานเกินไป
ไทกร้า: แล้วเธอเชื่อใจเขามั้ย รี้ส
รี้ส: แน่นอนว่าไม่ เขาบอกฉันว่าเขาสามารถบอกตัวเองแบบนั้นได้ เขาต้องการจะต้องทำร้ายใครสักคน นี่เป็นก็เพราะว่าโซดิแอค แล้วก็สิ่งที่เขาทำกับมิสเตอร์ไนท์ สิ่งที่เขาทำกับโซลเจอร์ แล้วก็เรื่องของสตีเว่น แกรนท์อีก เธออยากจะบอกฉันมั้ยว่าเรื่องพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่?
ไทกร้า: นี่เธอรู้รึยังว่ามิดไนท์แมนกลับมาแล้ว แปลกดีเนาะ เธอรู้รึเปล่าว่าเขาเป็นหนึ่งในศัตรูของมาร์ค ฉันนึกว่าเขาตายไปแล้วซะอีก...
ไทกร้า: ฟังนะ เรื่องของแกรนท์ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องเล่า
(มิดไนท์แมนหรือแอนตอน โมการ์ท เป็นหัวขโมยจอมปล้นงานศิลปะและอัญมณีล้ำค่า ผู้เป็นวายร้ายในยุคแรกๆ ของมูนไนท์ ก่อนที่ภายหลังเขาจะตายในการต่อสู้กับมูนไนท์เป็นครั้งสุดท้ายหลังจากที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องตายเพราะมะเร็ง)
จากนั้น โซลเจอร์กลับมายังมิดไนท์มิชชั่น ปรากฏว่าเขาถูกรี้สกัดเพื่อเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ก่อนที่จะตายในตอนที่แล้ว และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ติวเตอร์โกรธ เพราะควรจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนให้คนอื่นเป็นแวมไพร์ได้
ทางด้านติวเตอร์ เขาได้มอบงานให้ทาสก์มาสเตอร์ไปฆ่ามูนไนท์ โดยจะมีค่าตอบแทนให้อย่างงาม แต่ทว่า ทาสก์มาสเตอร์เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้
ติวเตอร์: หืม นี่คุณกลัวเหรอ?
ทาสก์มาสเตอร์: นี่นายจ้างฉันมาพูดแต่เจือกไม่ฟังเนี่ยนะ ก็เออสิวะ
ทาสก์มาสเตอร์: ถ้านายอยากให้ฉันไปล่าสไปเดอร์แมน ได้อยู่แล้ว หรือถ้าเป็นแดร์เดวิล ฉันก็จะทำให้
ทาสก์มาสเตอร์: แต่ถ้าเป็นมูนไนท์เหรอ? มันถึงขั้นขับเฮลิคอปเตอร์พุ่งใส่ตึกเพื่อล่าตัวฉันเลยนะ เหมือนกับว่าฉันต้องมาเจอ 9/11 ด้วยตัวเองอีกครั้งยังไงอย่างงั้นเลย
ทาสก์มาสเตอร์: ยังไงก็ขอให้โชคดีกับการหาใครก็ตามในเมืองนี้ที่พร้อมกับความเจ็บปวดแบบนั้น หรือไม่ใครก็ตามที่ไม่ใช่ไอ้พวกโรคจิตก็แล้วกันนะ ถึงมันจะคุ้มกับเงินหรือไม่ก็เถอะ
ติวเตอร์: หืม ไม่มีใครเลย ไม่มีใครในเมืองนี้เลย
ในเวลาต่อมา ทาสก์มาสเตอร์ได้มาหามูนไนท์ที่กำลังไล่ฆ่าพวกแวมไพร์คนอื่นๆ อยู่
ทาสก์มาสเตอร์: ใจร่มๆ แล้วก็ฟังนะ ข้างนอกนั่นมีใครสักคนที่กำลังอยากให้นายตายอยู่ เมื่อไม่กี่คืนก่อน หมอนั่นมายื่นข้อเสนอให้ฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธไป และที่ฉันอยากให้นายรู้ก็คือ...
ทาสก์มาสเตอร์: ...ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ ฉันไม่รู้ไม่เห็นด้วยนะ
มูนไนท์: แล้วทำไมแกถึงมาบอกฉันเรื่องนี้ล่ะ?
ทาสก์มาสเตอร์: หลักๆ ก็คือฉันโคตรจะกลัวนายเลยน่ะสิ แต่คิดซะว่านี่เป็นการมาตามมารยาทก็แล้วกันนะ จากมืออาชีพถึงมืออาชีพด้วยกัน
มูนไนท์: ฉันไม่มีอะไรเหมือนแกหรอกนะ
ทาสก์มาสเตอร์: ไม่หรอก นายพูดถูกแล้วล่ะ นายเคยเป็นนักฆ่ารับจ้างแบบฉันก็จริง แต่ว่าตอนนี้นายเลวร้ายยิ่งกว่าชั้นไปไกลโขเลยว่ะ
ทางด้านติวเตอร์ หลังจากทาสก์มาสเตอร์ไม่ยอมร่วมงานด้วยแล้ว เขาก็ได้สรรหาคนที่จะฆ่ามูนไนท์ให้เขาได้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีวายร้ายหน้าใหม่ 2 คนยอมรับงานนี้ นั่นก็คือนีมีนกับแกรนด์มัล
มิสเตอร์ไนท์กลับมาที่มิดไนท์มิชชั่น ก่อนที่รี้สจะเข้ามาหา
รี้ส: มิสเตอร์ไนท์ คุณโอเคมั้ย?
มิสเตอร์ไนท์: ผมสบายดี รี้ส ก็แค่เหนื่อยน่ะ ผมกำลังเข้าใกล้ติวเตอร์มากขึ้นแล้ว
รี้ส: เจ๋ง แล้วนี่นายจะบอกฉันได้ยังว่าสตีเว่น แกรนท์เป็นใคร?
มิสเตอร์ไนท์: ไม่ใช่คืนนี้ รี้ส อีกไม่นานหรอก ผมสัญญา ฝันดีนะ
ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสามบุคลิก มาร์ค สตีเว่น และเจคจะต้องมานั่งคุยกัน